สร้างรายได้ 24 ล้านบาท ใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์ ในช่วงวิกฤติ Covid-19

ความเป็นมา

จากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา ยังไม่เลวร้ายเท่ากับการเกิดโรคระบาด Covid-19 ที่ทำให้ธุรกิจทั่วโลกรวมถึงในไทยต่างต้องทรุดหนัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจบางรายตัดสินใจปิดกิจการ เนื่องจากไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายได้เท่าเดิม แม้แต่ Marriott International กลุ่มโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังมีนโยบายให้พนักงานกว่าหมื่นคนทั่วโลกลาพักร้อนโดยไม่รับเงินเดือน ในขณะที่ Hilton Hotels and Resorts ประกาศปิดโรงแรมในเครือกว่า 150 แห่งในจีนอย่างไม่มีกำหนด (ประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ 2563) นายอาร์เน่ โซเรนเซ่น ผู้บริหารในกลุ่ม Marriott International กล่าวว่า “โรคระบาดที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจมากกว่าการรวมวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ และเหตุการณ์ 9/11 เข้าด้วยกัน” แต่ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นนี้ไม่กระทบต่อโรงแรมในเครือ La Flora group ที่สามารถเพิ่มรายได้ผ่านยอดการจองตรงที่หน้าเว็บไซต์สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ภายในกลางเดือนมีนาคม 2563 เท่านั้น โดยสามารถสร้างยอดขายทั้ง 3 โรงแรมรวมกันทั้งสิ้น 24 ล้านบาท โดยใช้เวลาเพียง 6  สัปดาห์ เฉพาะการจองออนไลน์ และผ่านหน้าเว็บไซต์เท่านั้น 

ยอดขายที่เกิดขึ้นหมายความว่าอย่างไร?

เรากำลังจะบอกว่าเฉพาะปีที่แล้วโรงแรมเดียว เราสร้างยอดขายได้ถึง 11 ล้านบาท และในปีนี้เราตั้งเป้าไว้ที่ 20 ล้านบาท ซึ่งนั่นทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะต้องทำลายสถิติเดิม และกังวลไปพร้อมกัน เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 แต่ถ้าย้อนกลับไปได้เรามั่นใจที่จะบอกพาร์ทเนอร์ว่า “เราทำได้อย่างแน่นอน” เป็นไปได้อย่างไรที่โรงแรมในเครือ La Flora group สามารถสร้างยอดขายได้อย่างมหาศาล และเตรียมพร้อมสำหรับวางแคมเปญการตลาดถัดไป ในขณะที่โรงแรมอื่น ๆ ต้องลดค่าใช้จ่ายลง และพนักงานกว่า 50 ล้านคนมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นคนว่างงาน ซึ่งใน Case study นี้เราจะอธิบายว่าเราช่วยให้พาร์ทเนอร์ประสบความสำเร็จได้อย่างไร เพียงแค่ปรับวิธีการคิด อาจทำให้คุณประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน

หัวข้อที่ 1

เราทำได้อย่างไร?

ความสำเร็จที่แท้จริงในการทำการตลาดออนไลน์คือการวางกลยุทธ์ในระยะยาวที่เหมาะสมกับธุรกิจมากที่สุด โดยทำไปพร้อม ๆ กับการออกแบบครีเอทีฟให้น่าสนใจ และเขียนก๊อบปี้ที่ดึงดูดผู้อ่าน สิ่งที่พูดถึงในข้างต้นอาจจะดูเข้าข้างตัวเองไม่มากก็น้อย แต่ในฐานะเจ้าของเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์ เรายืนยันจากใจว่าเราเคยทำให้ลูกค้าในกลุ่มโรงแรมหลายรายก่อนหน้านี้ต้องผิดหวัง จึงทำให้เราเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความสนใจมากที่สุด ซึ่งเจ้าของโรงแรมส่วนมากในยุคเก่ามักใช้การตลาดออนไลน์เฉพาะการเพิ่มยอดขายในช่วงเวลาสั้น ๆ และนั่นก็ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเช่นกัน ในครั้งแรกที่เราเข้ามาดูโปรเจกต์ La Flora group เมื่อ 2 ปีก่อน เราช่วยสร้างยอดขายให้กับหนึ่งโรงแรมในเครือกว่า 67% ภายใน 12 สัปดาห์ เป็นเพราะเรามีแผนการตลาดในระยะยาวที่ดี มีกลยุทธ์ที่เน้นการเพิ่มยอดขาย และได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารโรงแรมที่ตัดสินใจเลือกทิศทางการทำงานโดยอิงจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น และยังมองเห็นศักยภาพของ Social media ที่จะช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่ธุรกิจได้อีกด้วย 

ธุรกิจส่วนมากไม่ค่อยมีความยืนหยุ่นให้พนักงานทำงานร่วมกันระหว่างทีม จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

บริษัทส่วนใหญ่เสียเวลาถึง 80% ในการพยายามปรับดีไซน์ให้ดูสวยขึ้น หรือเขียนก๊อบปี้ที่ทำให้คนต้องหยุดอ่าน ทั้ง ๆ ที่รายละเอียดพวกนี้มีผลต่อการช่วยเพิ่มยอดขายแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในขณะที่การสร้างเนื้อหา หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ให้ตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาก็สอนให้เรารู้ว่าการโฟกัสในส่วนนี้มากเกินไปย่อมส่งผลเสียมากกว่าผลดี

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรใช้เวลาคิด และตั้งคำถามเกี่ยวกับการวางกลยุทธ์ให้มากขึ้น แทนที่จะคิดว่าดีไซน์ในครีเอทีฟไหนสวยกว่ากัน ให้ลองเปลี่ยนมาตั้งคำถามดังต่อไปนี้

ลูกค้าจะซื้อสินค้า/บริการของเราตอนไหน และปัจจัยอะไรที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ?

อะไรที่ทำให้ลูกค้าไม่ซื้อสินค้าของเรา?

ทำไมลูกทักข้อความมาสอบถามสินค้า/บริการแต่ไม่ตัดสินใจซื้อ?

ทำอย่างไรที่จะพัฒนาข้อเสนอของสินค้า/บริการให้ถูกใจกลุ่มลูกค้าออนไลน์มากที่สุด?

ซึ่งคำถามเหล่านี้มักไม่ค่อยถูกพูดถึงในระหว่างการพูดคุยของทีมอินเฮ้าส์ และเอเจนซี่ ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นประเด็นที่ได้รับการถกเถียง หรือเปิดใจที่จะหาข้อสรุปร่วมกันมากที่สุด เพราะคำตอบที่ได้จะสามารถนำไปพัฒนา ปรับปรุง เพื่อทำให้แบรนด์มียอดขายที่เพิ่มมากขึ้นได้

เราใช้เวลากว่าครึ่งปีในการตระหนักได้ว่าโรงแรมส่วนมากไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่จุดประสงค์หลักคือการเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของ และผู้ถือหุ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดโดยตรง

แต่สำหรับผู้บริหารในกลุ่มเครือโรงแรม La Flora group กลับมีมุมมอง แนวความคิดที่แตกต่างออกไป และจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องเขียน Case study เรื่องนี้ขึ้นมา

No items found.

หัวข้อที่ 2

ทำอย่างไรถึงเพิ่มยอดขายได้ 24 ล้านบาท?

อย่างแรกเลยคือทีมผู้บริหารของโรงแรมเชื่อในพลังของ ​Social media พวกเขารู้ว่ามีผู้ใช้งานบน Facebook ประมาณ 2.5 ล้านคนในทุก ๆ เดือน และเห็นศักยภาพในการดึงเอากลุ่มคนที่ใช่มาเป็นฐานลูกค้า และแปรเปลี่ยนมาเป็นรายได้ให้กับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันเราดูแลแคมเปญการตลาดออนไลน์ให้กับโรงแรมในเครือ La Flora group ทั้งหมด 3 โรงแรม ได้แก่ La Vela Khaolak, Casa de La Flora, และ La Flora Khaolak โดยเน้นไปที่การใช้ Social media เป็นเครื่องมือหลักในการหาลูกค้าที่มีความชอบ หรือมีแนวโน้มที่จะสนใจ และตอบสนองกับสิ่งที่แบรนด์นำเสนอ

ถึงแม้เราสามารถสร้างยอดขาย 24 ล้านบาท ภายใน 6 สัปดาห์ แต่ความจริงแล้วเราใช้เวลาเกือบ 2 ปีในการค่อย ๆ หล่อหลอมความสำเร็จขึ้นทีละนิด และต่อไปนี้คือสิ่งที่เรามุ่งมั่นจนทำให้ประสบความสำเร็จตามที่เราคาดหวังไว้

1. วางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ในระยะยาว

“กลยุทธ์” เป็นศัพท์ทางการตลาดที่คุณอาจจะเคยได้ยิน หรือเห็นค่อนข้างบ่อย แต่สำหรับเอเจนซี่บางแห่งมักจะใช้คำนี้เพื่อปกปิดผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสิ่งนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่ต้องมีการวางแผนที่ดี และเหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด

สำหรับโรงแรมในเครือ La Flora group เราแบ่งภาพรวมของกลยุทธ์ออกเป็น 2 หลักใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้

  1. Performance Marketing - กลยุทธ์สำหรับการเพิ่มยอดการจองตรง (และ)
  2. Content Marketing - กลยุทธ์ที่ช่วยสร้าง และรักษาการรับรู้ของแบรนด์ โดยเน้นให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดที่สามารถวัดผลได้ เช่น จำนวนคอมเมนต์ หรือแชร์ มากกว่าตัวชี้วัดที่ไม่มีประสิทธิภาพอย่าง ยอดไลก์ หรือจำนวนคนที่เข้าถึง เป็นต้น

โดยทั้ง 2 กลยุทธ์นี้จะใช้วิธีการสื่อสาร การนำเสนอ ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เช่น คุณสามารถนำเสนอโปรโมชันให้กับลูกค้าที่เคยซื้อสินค้า/บริการ หรือรู้จักแบรนด์ของคุณเป็นอย่างดี แต่จะไม่สามารถนำเสนอไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ได้ เนื่องจากเขาไม่รู้จักแบรนด์คุณมาก่อน และไม่รู้ว่าสินค้า/บริการนั้นให้คุณค่ากับพวกเขาอย่างไรบ้าง

ตัวอย่างโฆษณาแบบ Performance Marketing ที่มุ่งเน้นไปยังลูกค้าที่ “พร้อมจะซื้อ” แล้วเท่านั้น

คอนเท้นเอเจนซี่โฆษณาการตลาดโรงแรม

และตัวอย่างโฆษณาแบบ Content Marketing ที่เน้นพูดคุยไปยังลูกค้าที่ “ไม่เคยรู้จัก” โรงแรมในเครือ La Flora group มาก่อน

คอนเท้นเอเจนซี่โฆษณาการตลาดโรงแรม 2

2. การจัดทำแคมเปญ Content Marketing อย่างต่อเนื่อง

นอกเหนือจากข้อ 1. ที่กล่าวไป La Flora group ได้เน้นวางกลยุทธ์แบบ Content Marketing ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ให้กว้างมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลข้อเดียวคือ “คนส่วนใหญ่ที่เห็นโฆษณาในครั้งแรกมักจะไม่จองโรงแรมในทันที”

จากสถิติพบว่ามีเพียง 3% เท่านั้นที่พร้อมซื้อแบบไม่มีเงื่อนไข ที่เหลือ 97% จะอยู่ที่พฤติกรรมส่วนบุคคลของลูกค้าว่ามีการรับรู้เรื่องแบรนด์อยู่ในระดับใด โดยมีตั้งแต่คนที่สนใจไปจนถึงคนที่ไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์มาก่อน

เราใช้เวลากว่า 2 ปี ในการชักจูงกลุ่มคนที่ไม่รู้จักให้กลายมาเป็นคนที่พร้อมซื้อสินค้า/บริการของเราอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการนำเสนอสิ่งที่น่าสนใจ เช่น ภาพวิวทะเลสวย ๆ หรือภาพอาหารที่น่าทาน เพื่อทำให้คนเหล่านั้นหยุดอ่าน หรือพยายามทำความรู้จักเรามากขึ้น แม้แต่คนที่เริ่มสนใจแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อก็จะดึงดูดด้วยโปรโมชัน หรือส่วนลดที่จะกระตุ้นให้มีความต้องการซื้อมากขึ้นกว่าเดิม

แล้วคุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคุณใช้กลยุทธ์ Content Marketing กระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มลูกค้าเป็นระยะเวลา 2 ปีเช่นเดียวกันกับเรา?

คอนเท้นเอเจนซี่โฆษณาสร้างยอดขายโรงแรม

3. ประยุกต์ Performance Marketing เพื่อวัด ROAS & ยอดขายโดยตรง

บริษัทส่วนใหญ่ทำมาถึงขั้นตอนนี้แล้วหยุด ซึ่งเราจะบอกว่ามันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น 

เป้าหมายสูงสุดในการทำการตลาดคือการสร้างยอดขาย ดังนั้นเราจึงต้องให้ความสำคัญกับการวางกลยุทธ์ เพราะสิ่งนี้จะเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ 

และสิ่งสำคัญในการโน้มน้าวคนให้มาจองห้องพักคือการมีข้อเสนอที่ดี เราใช้เวลากว่า 2 ปีในการทดสอบโปรโมชัน หรือดีลต่าง ๆ มากมาย เพื่อดูว่าลูกค้ามีความชอบ รู้สึกเฉย ๆ หรือรีบจองกับเงื่อนไขในการโฆษณาแบบไหนมากที่สุด และในปีที่ 3 นี้เองที่ทำให้เราสรุป 4-5 โปรโมชันที่ได้จากการเรียนรู้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาสำหรับการเร่งสร้างยอดขายโดยเฉพาะ 

อย่างไรก็ตามโปรโมชันกว่า 50% บางครั้งก็ไม่เวิร์ก บางครั้งก็ดี แต่บางทีก็ได้รับความสนใจจนทำให้เกิดยอดจองอย่างล้นหลาม

จากบทเรียนอันล้ำค่ากลายมาเป็นความสำเร็จที่ทำให้เรารู้ว่าการตัดสินใจวางกลยุทธ์โดยอิงจากข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงจะทำให้การวางแผนเป็นได้อย่างแม่นยำ และสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปพูดคุยกับทีมงาน La Flora group เพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุดสำหรับการปรับปรุง พัฒนา ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาสิ่งเหล่านี้กลายเป็นแพทเทิร์นที่ทำให้เราได้ใช้ และเรียนรู้เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริง และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เรายังคงยืนยันว่าให้อิงจากข้อมูลที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้า มากกว่าการใช้ความรู้สึกส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่งในการตัดสินใจ

No items found.

หัวข้อที่ 3

สร้างรายได้ที่มากขึ้นให้ La Flora group

มาถึงตรงนี้คุณอาจกำลังสงสัยว่าสิ่งที่เรานำเสนอไปทั้งหมดจะเวิร์กสำหรับธุรกิจคุณหรือไม่ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเอเจนซี่ส่วนมากมักใช้คำพูดขายฝัน หรือนำเสนอรายงานหลอก ๆ เพื่อทำให้คุณเชื่อใจแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ และตอนที่เราเผยแพร่ Case study นี้ออกไปครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ก็ดูจะไม่ค่อยมีคนเชื่อในสิ่งที่เรานำเสนอ หรือชื่นชอบสักเท่าไหร่

ตัวอย่างโพสต์ของเรา:

คอนเท้นเอเจนซี่โฆษณาสร้างยอดขายโรงแรม 2

ความคิดเห็นส่วนมากที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เรานำเสนอ:

ยังมีอีก:

เราคิดว่าคงจะหมดแล้ว แต่...

เห็นภาพกันแบบชัด ๆ

คนส่วนมากคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นสิ่งที่หลอกลวง โกหกทั้งสิ้น

บางคนถึงกับพูดว่า “แค่ฟลุค” โดยให้เหตุผลว่าในสถานการณ์แบบนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น

แต่เราเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ ทำไมถึงคิดแบบนั้น?

เพราะเราสร้างยอดขายแบบมหาศาลให้กับพาร์ทเนอร์ได้อีกครั้ง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในครั้งแรกเพียงไม่กี่เดือน โดยใช้แพทเทิร์นเดิมเดียวกันกับที่เราเคยทำก่อนหน้านี้

เราสร้างรายได้กว่า 21 ล้านบาท ภายใน 6 สัปดาห์ให้กับโรงแรมในเครือ La Flora group อีกครั้ง ด้วยกลยุทธ์ขยายโปรโมชันยอดนิยม นำเสนอห้องพักราคาเท่าเดิม และถึงแม้จะยังไม่มีประกาศที่ชัดเจนเกี่ยวกับการคลายล็อกดาวน์ แต่เราก็ยังสามารถสร้างยอดขายได้อย่างถล่มทลาย

ตลอดระยะเวลา 45 วัน (ตั้งแต่ 5 มิถุนายน ถึง 19 กรกฎาคม 2563) เราใช้เงินลงทุนบนแพลตฟอร์ม Facebook ไปทั้งสิ้น 3 ล้านบาท เพื่อโปรโมทโปรโมชัน Summer Calling ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากที่สุด ซึ่งราคานี้รวมค่าบริการของเราเรียบร้อยแล้ว

ตัวเลข 21 ล้านบาทนี้กำลังบอกว่า La Flora group ได้ผลตอบแทนการลงทุน (ROI) สูงถึง 7 เท่า นับเป็นครั้งที่สองติดต่อกันที่สามารถทำได้

เคล็ดลับความสำเร็จภายใน 45 วันนี้ เราแบ่งออกเป็น 2 เฟสคือ:

เฟสที่ 1: 30 วันแรกเราเน้นการนำเสนอเนื้อหาที่ดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นให้คนอยากมาพักที่โรงแรม โดยเน้นทั้งกลุ่มลูกค้าใหม่ และผู้ที่เคยแสดงความสนใจในเพจมาก่อน แต่ยังไม่ได้ทำการจอง

เฟสที่ 2: ช่วง 15 วันสุดท้ายเราเน้นเฉพาะเนื้อหาที่เป็นโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง และเจาะกลุ่มลูกค้าที่เคยแสดงความสนใจในเพจมาก่อน และพร้อมที่จะซื้อแล้วเท่านั้น

โฆษณาด้านล่างคือตัวอย่างเนื้อหาที่เรานำเสนอในเฟสที่ 1 (เราแปะรายละเอียดไว้ให้ด้านล่างเพื่อทำให้ทุกคนเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น)


ในส่วนของก๊อบปี้ และรูปภาพ เรานำเสนอให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ว่าโปรโมชัน “Summer Calling” ขยายเวลาในการจองห้องพัก แต่นั่นก็อาจจะยังไม่เพียงพอ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า Covid-19 เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้คนส่วนมากยังไม่กล้าเดินทาง เราจึงมานั่งทบทวนว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น จนเราค้นพบข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ทำการจองภายในระยะเวลาที่กำหนด สามารถเลือกวันเข้าพักได้ด้วยตนเองนานถึง 1 ปี (นับจากวันที่จอง) 

ซึ่งในช่วง 30 วันแรก เรานำเสนอเนื้อหาที่ชัดเจนแบบนี้ในเฟสที่ 1 มาโดยตลอด เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และเป็นการกระตุ้นให้คนที่กำลังลังเลได้ใช้เวลาในการตัดสินใจ และใช้ช่วงเวลา 15 วันสุดท้ายในเฟสที่ 2 กระตุ้นให้เกิดยอดจองมากที่สุด ดังตัวอย่างที่เราแปะไว้ให้ด้านล่าง

ครีเอทีฟการ ตลาดโรงแรม 2

ถึงแม้ว่าก๊อบปี้ และรายละเอียดการจองห้องพักจะเหมือนกับโฆษณาในเฟสที่ 1 แต่มุมมองการนำเสนอ หรือไอเดียนั้นแตกต่างกันออกไป โดยเราเน้นใช้คำว่า “7 วันสุดท้าย” เพื่อกระตุ้นให้คนต้องรีบกดจองห้องพักในทันที และทำให้คนอ่านรู้สึกว่าถ้าพลาดครั้งนี้อาจจะต้องรออีกทีในปีถัดไป

การนำเสนอไอเดีย “7 วันสุดท้าย” เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีสิทธิพิเศษที่สามารถเลือกวันเข้าพักได้เองเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไปเพียงน้อยนิด 

อย่างไรก็ตามเฉพาะเฟสที่ 2 ในช่วง 7 วันสุดท้าย ทีมเราสามารถสร้างรายได้ที่เกินคาดกว่า 9 ล้านบาท และหลังจากที่โปรโมชันสิ้นสุดลง เราสามารถสร้างยอดขายได้ทั้งสิ้น 21,716,803 บาท เมื่อรวมรายได้ทั้งหมดจากโปรโมชัน Summer Calling รายได้รวมสุทธิมีมูลค่าสูงถึง 45 ล้านบาท โดยใช้เวลาเพียง 12 สัปดาห์เท่านั้น

ความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากทีมของเราไม่มีความมุ่งมั่นที่มากพอ และไม่ได้รับการสนับสนุนจากทีมงาน La Flora group เพราะพวกเราเชื่อว่าผลลัพธ์จะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มจากการลงมือทำ ดังนั้นส่วนไหนที่เราเห็นว่าสามารถพัฒนาได้ เราจะสื่อสารอย่างตรงไปตรงมากับพาร์ทเนอร์โดยตลอด ดังนั้นคุณจึงได้เห็นเว็บไซต์ที่สามารถจองห้องพักได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่ความใส่ใจในรายละเอียดการจองของลูกค้าที่ไม่เคยมีตกหล่นแม้แต่ครั้งเดียว 

และสิ่งสำคัญที่สุดคือพนักงานหลายร้อยชีวิตที่ทำงานอยู่ในเครือโรงแรม La Flora group ไม่มีคนใดที่โดนไล่ออกในช่วงวิกฤติ Covid-19 ที่ผ่านมา ทั้งหมดล้วนเกิดจากความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง พร้อมเปิดใจที่จะเรียนรู้ และรับฟังอีกฝ่ายอย่างไม่มีอคติ

สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราพูดไปทั้งหมด เราไม่ได้มาขายฝัน หรือโน้มน้าวใจด้วยคำพูดที่ดูเกินจริง แต่สิ่งที่เราแคร์มากที่สุดคือการช่วยให้ธุรกิจอื่น ๆ เติบโต และประสบความสำเร็จเหมือนกับที่เราทำให้ La Flora group

No items found.

หัวข้อที่ 4

คุณสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างไร?

1. ทัศนคติของคุณ และทีมผู้นำคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

เปิดใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับโลกของการตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่าใช้ความรู้สึกส่วนตัวตัดสินบางสิ่งบางอย่าง เพราะแค่คิดว่ามันน่าจะดี หรือไม่ดี หมั่นเทสต์โฆษณาแล้วดูว่าเนื้อหาแบบไหนที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากที่สุด แล้วนำไอเดียที่ได้ไปต่อยอดเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของแบรนด์ให้มากยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และอย่าลืมว่าการเดินทางจะไม่มีวันเริ่มต้นด้วยความสำเร็จก่อนอย่างแน่นอน

2. ร่วมงานกับเอเจนซี่สมัยใหม่เพื่อเติบโตไปด้วยกัน

อย่าจ้างเอเจนซี่หากคุณยังไม่มีแผนธุรกิจในระยะยาว หรือแค่เพราะมีงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อยากให้ช่วยทำ แต่ถ้าคุณต้องการคนเพื่อมาช่วยงานแค่นั้นจริง ๆ เราแนะนำให้คุณมอบหมายงานให้คนในทีมดีกว่าเสียเงินเพื่อจ้างคนภายนอก

เพราะการจ้างเอเจนซี่ที่มีประสบการณ์นั่นหมายความว่าคุณจะต้องได้สิ่งที่คุณ และทีมไม่สามารถทำได้ เช่น หากคุณจ้างเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญต้องมีการวางกลยุทธ์ในการดำเนินงานที่ชัดเจน และเซต KPI เพื่อวัดผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าธุรกิจคุณเติบโต หรือได้ผลตอบแทนจากการลงทุนมากน้อยเพียงใด

สิ่งสำคัญคือคุณต้องโฟกัสไปยังกลยุทธ์ที่ใช้ในการดำเนินงานแบบจริงจัง มากกว่าการแก้รายละเอียดยิบย่อยที่ไม่ได้ส่งผลดีให้กับยอดขายของคุณเท่าที่ควร เช่น การแก้ก๊อบปี้ หรือดีไซน์ที่จะใช้ในการโฆษณา

ดังนั้นคุณควรเลือกเอเจนซี่ที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้จริง และวัดผลอย่างมีที่มาที่ไป มากกว่าการเลือกจากคำโฆษณา หรือไอเดียนำเสนองานที่ดูเกินจริง เพราะสุดท้ายแล้วคุณก็จะได้รับแค่รายงานการตลาดประจำเดือนที่ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าธุรกิจคุณเติบโต หรือยังอยู่ที่เดิม

3. อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ

ไม่กี่สัปดาห์หลังจากเกิดโรคระบาด Covid-19 เราทุกคนต่างต้องทำงานหนักขึ้น และพยายามปรับปรุง พัฒนาตนเองเพื่อสร้างยอดขายที่มากกว่าเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

อย่างไรก็ตามเรายังรู้ว่ามีข้อดีคือกลุ่มเป้าหมายของเรายังอยู่ที่เดิม และยังคงมีพฤติกรรมพร้อมซื้อเช่นเคย 

ดังนั้นธุรกิจสมัยใหม่ควรปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่เพียงแต่เอาตัวรอดในช่วงที่ยากลำบาก แต่ยังต้องสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดให้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากธุรกิจที่ไม่สามารถปรับตัวได้อย่างทันท่วงที

No items found.

เราไม่คิดว่าผลตอบรับโปรโมชันจะดีขนาดนี้ ทั้งยอดขายและสภาพการเงินของโรงแรมทำให้เรามีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเรายังสามารถสร้างรายได้ที่มากขึ้นจากลูกค้าที่มาพักในโรงแรมได้อีกด้วย

คุณพรนิภา เกียรติงามยิ่ง

ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่าย E-Commerce - La Flora group

หัวข้อที่ 5

No items found.

หัวข้อที่ 6

No items found.

หัวข้อที่ 7

No items found.

หัวข้อที่ 8

No items found.

อยากรู้หรือไม่ว่าธุรกิจของคุณสามารถเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้เท่าไหร่?